จับพยาบาลสาว วิศวะหนุ่ม 2ผัวเมีย ดัดแปลงขายปืนเถื่อนออนไลน์ ในเวลา 2 ปี ซื้อปืนสวัสดิการไปแล้ว 21 กระบอก

ตำรวจไซเบอร์ ปูพรมตรวจค้นทั้งหมด 60 จุดในพื้นที่ 42 จังหวัด ทำการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลต่างๆ ปราบอาชญากรรมในทุกรูปแบบเนื่องจากเป็นช่วงใกล้วันเลือกตั้ง พร้อมกับจับกุมพยาบาลสาวค้าอาวุธปืน ยึดของกลางอีกเพียบ


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ค. 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวผลการระดมพลกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆ มือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม โดยปูพรมตรวจค้นทั้งหมดจำนวน 60 จุดในพื้นที่ 42 จังหวัด ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวนทั้งหมด 50 คน ของกลางอาวุธปืนอีกจำนวน 77 กระบอก ระเบิดปิงปองจำนวน 1 ลูกเครื่องกระสุนปืนชนิดต่างๆ รวมแล้วทั้งหมด 2,440 นัด  พล.ต.ท.วรวัฒน์ ได้กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ที่เน้นย้ำสั่งการให้ดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้วันเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 66


โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม ก่อนวันเลือกตั้ง ในห้วงระหว่างวันที่ 4-10 พ.ค. 66 โดยมีคดีที่น่าสนใจเป็นการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหารายสำคัญ เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งมีพฤติการณ์จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในระบบออนไลน์ ทางโซเชียล โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล และซุ้มมือปืน โดยการขยายผลพบรายละเอียดของการสั่งซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก โดยตำรวจได้ทำการล่อซื้อกระสุนปืน 1 กล่อง พบต้นทางส่งมาจากบ้านเลขที่ 29/59 ซ.รามอินทรา 65 แยก 2-2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน จึงขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าว พร้อมกับจับกุม น.ส.พิตตินันท์ ดวงคำจันทร์ อายุ 31 ปี ทำอาชีพเป็นพยาบาล อยู่ที่รพ. แห่งหนึ่งย่านรามอินทรา และ นายชยุต บุญฤทธิผล อายุ 34 ปี สามี พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนขนาดต่างๆ จำนวน 19 กระบอก แบ่งเป็นปืนมีทะเบียน 17 กระบอก


ในจำนวนนี้มีปืนของทหารที่ถูกนำมาจำนำ 1 กระบอก และปืนบีบีกันอีก 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืนกว่า 2,000 นัด สอบสวนให้การว่าอาวุธปืนทั้งหมดเป็นของหญิงสาวรายดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าปืนนั้น แฟนหนุ่ม ที่ซึ่งทำอาชีพเป็นวิศวกรช่างกลได้นำชื่อตนเองไปซื้อ เพราะได้สิทธิสวัสดิการ แต่ไม่ทราบเรื่องของการจัดจำหน่าย สินค้าที่นำไปส่ง โดยสามีได้แพ็กใส่กล่องและให้ตนเองเป็นคนนำไปส่งให้ โดยที่ไม่ทราบมาก่อนว่าข้างในนั้นเป็นอาวุธปืน ไม่ว่าอย่างไรจากการตรวจสอบประวัติทั้งหมด พบว่านางพยาบาลคนนี้มีชื่อซื้ออาวุธปืนสวัสดิการทั้งสิ้นจำนวน 21 กระบอกภายในปี 62-63 และต่อมาในปี 65 ซื้อเพิ่มอีก 1 กระบอก ซึ่งเป็นจำนวนที่มากผิดปกติ



จึงได้ทำการควบคุมตัวพยาบาลสาวคนดังกล่าวและสามีที่เป็นวิศวกรช่างกลมาดำเนินคดีในความผิดฐาน "ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต และทำการจัดจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต" ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากการที่ได้ตรวจสอบอาวุธปืนบางกระบอกพบว่า มีบางส่วนเป็นปืนบีบีกัน แต่มีการดัดเปลี่ยนแปลงบริเวณลำกล้อง ยกตัวอย่างเช่น ปืนขนาด .22 แต่มีการดัดแปลงลำกล้องเพื่อให้ใช้กับกระสุน M4 ได้ ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย เนื่องจากตามกฎหมายระบุประชาชนสามารถครอบครองอาวุธปืนได้เพียงขนาด .22 ซึ่งถือว่าเป็นการผิดวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีการใช้ช่องโหว่ของกฎหมายในการซื้อปืนสวัสดิการได้ในราคาถูกกว่าราคาปกติ แต่ปืนอยู่กับบุคคลอื่นแต่ต้องสลักหลังทิ้งไว้พอครบเวลา 5 ปีถึงโอน เป็นต้น อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ทาง บช.สอท. อยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อขยายผลการกวาดล้างต่อไป






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

"โรม" พร้อมกับภรรยาและทนาย มาศาลตามนัด ไต่สวนคดี ส.ว.ทรงเอ ฟ้องหมิ่นฯ ยืนยัน ทำตามหน้าที่ ไม่มีมีความกังวลใจ

อุทาหรณ์ คนไร้ความคิดเกือบพรากชีวิตลูกน้อย หามเข้า ICU ด่วน หมอคาดกินอาหารผสมสารเสพติดที่เป็นเสรีอยู่ ณ ขณะนี้

"ก้าวไกล" ถอยแล้ว "พิธา" ทวิตขอโทษดีล "ชาติพัฒนากล้า" ร่วมรัฐบาล ลุยเจรจา ส.ว.หนุน "พิธา" นายกฯ